คำถามที่พบบ่อย
เราได้รวบรวมคำถามน่ารู้ ที่พ่อแม่ ควรต้องทราบ สำหรับการเลือกเช่าคาร์ซีทให้ลูกเดินทาง นั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องหาข้อมูลเยอะแยะมากมาย และคาร์ซีทในท้องตลาดก็มีหลายรุ่นหลายแบรนด์ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าคาร์ซีทรุ่นใดเหมาะสมที่สุด เราได้ตอบคำถามและข้อสงสัยที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่สอบถามเข้ามาและรวบรวมไว้ที่นี่แล้ว มาทำความรู้จักคาร์ซีทกันอีกสักหน่อยครับ
มี 3 ประเภทหลักคือ:
- REAR-FACING : แบบหันหน้าไปทางด้านหลัง (หันเข้าที่พิงเบาะ) สำหรับเด็กแรกเกิด - 4 ปี สำหรับทารกและเด็กเล็ก
- FORWARD-FACING : หันหน้าไปทางเดียวกับเบบาะปกติ สำหรับเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป ด้วยสายรัดนิรภัยและสายรัดด้านบนสำหรับเด็กที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนด ส่วนสูง และ น้ำหนัก
- BOOSTER : บูสเตอร์ซีท สำหรับเด็กอายุ 3 - 7 ปี หรือเด็กที่มีน้ำหนักหรือสูงเกินสำหรับคาร์ซีทแบบมีสายรัด
ต้องคำนึงก่อนว่าคาร์ซีททุกตัวไม่ใช่ว่าจะสามารถติดตั้งได้กับรถทุกคัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกคาร์ซีทที่เหมาะกับรถของคุณเช่นการเลือกจากระบบติดตั้งที่รถมี ถ้าหากรถคุณมี ISOFIX ก็ควรเลือกคาร์ซีทที่มี ISOFIX รองรับและตรวจสอบช่วงอายุแนะนำของคาร์ซีทว่าเหมาะกับช่วงอายุของเด็กที่ใช้งานหรือไม่
ถ้าหากรถของคุณไม่มี ISOFIX ก็สามารถใช้งานคาร์ซีทได้ เพียงแค่ต้องเลือกคาร์ซีทที่รองรับการติดตั้งด้วยสายเข็มขัดนิรภัย การติดตั้งไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ถ้าหากติดตั้งถูกต้องตามที่คู่มือแนะนำก็ปลอดภัยเช่นเดียวกัน
ตัวระบบยึด ISOFIX เองนั้น ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยกว่าการติดตั้งด้วยสายนิรภัยหากการติดตั้งด้วยสายนิรภัยนั้นติดตั้งอย่างถูกต้องตามมาตราฐาน Child Restraint Evaluation Program (CREP) ได้กำหนดไว้
แต่ถึงอย่างนั้น National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) หรือกรมทางหลวงในสหรัฐอเมริกาได้พบว่ากว่า 46% หรือเกือบครึ่งของคาร์ซีททั้งหมดที่ติดตั้งด้วยสายนิรภัยนั้นถูกติดตั้งด้วยวิธีที่ผิด ISOFIX นั้นเลยมีความสำคัญเพราะติดตั้งง่าย ช่วยลดโอกาสที่ทำให้เด็กได้รับการบาดเจ็บเพราะการติดตั้งที่ผิดได้เป็นอย่างมาก ตัวระบบ ISOFIX จะติดตรงเข้ากับเบาะรถที่รองรับระบบ ISOFIX โดยการยึดเข้ากับฐานของคาร์ซีท ทำให้มีการเคลื่อนไหวที่น้อยมากในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุโดยเฉพาะการกระแทกจากด้านข้าง
ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตามการเลือกคาร์ซีทให้เหมาะสมกับรถของคุณและติดตั้งให้ถูกต้องตามที่คู่มือแนะนำเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ไม่มีก็ติดตั้งได้ครับ เพราะเบาะรถหลายๆ รุ่นไม่มีระบบ ISOFIX มาให้ แต่ก็สามารถติดตั้งกับสายเข็มขัดนิรภัยแทนได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องทำให้ถูกต้องเท่านั้นเอง
ในเกือบทุกกรณี การติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะหลังนั้นคือจุดที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการติดตั้ง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการติดตั้งคาร์ซีทให้ห่างจากถุงลมนิรภัย (Airbag) ต่างๆ โดยเฉพาะที่เบาะหน้า เนื่องจากถุงลมนิรภัยนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ปกป้องศรีษะและใบหน้าของผู้ใหญ่ที่รัดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ถ้าหากนำคาร์ซีทไปติดตั้งอาจเกิดอันตรายอย่างมากและมีโอกาศบาดเจ็บถึงแก่ชีวิตหากถุงลมนิรภัยทำงานและกระแทกโดนเด็ก ทางเราไม่แนะนำและไม่ควรติดตั้งที่เบาะหน้าโดยเด็ดขาด แต่ถ้าหากมีความจำเป็นที่จะต้องติดตั้งที่เบาะหน้าให้ปิดระบบถุงลมนิรภัยก่อนและเช็คก่อนเสมอว่าระบบถุงลมนิรภัยนั้นถูกปิดอยู่
ทางเราแนะนำว่าเด็กทารกนั้นไม่ควรนั่งอยู่ในคาร์ซีทเกิน 2 ชั่วโมง เนื่องจากเด็กทารกจะอยู่ในองศาเอียง และการที่ทารกอยู่ในองศาเอียงในระยะเวลานานนั้นอาจก่อให้เกิด
- การส่งผลต่อการพัฒนาการกระดูกสันหลังของทารก
- การไหลเวียนของอากาศถูกจำกัดสำหรับปอดของทารก
ถ้าหากต้องเดินทางระยะไกลเป็นเวลานาน สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมคือการแวะพักอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง
เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เด็กตั้งแต่ทารกแรกเกิดจนโต หากต้องเดินทางด้วยรถยนต์ ควรที่จะต้องนั่งในคาร์ซีทเสมอตราบใดที่ยังอยู่ในขอบเขตกำหนดการใช้งานของคาร์ซีท เพราะฉะนั้นควรให้เด็กนั่งเบาะหลังเสมอในช่วงอายุ 0-12 ปีหรือจนกว่าเด็กจะตัวสูงเกิน 135cm